“ผู้นำที่ดี ต้องเริ่มต้นจากประชาชน” วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น (COLA KKU) ไม่หยุดเพียงแค่การเรียนรู้ในห้องเรียน แต่ยังเดินหน้าช่วยเหลือสังคมในทุกโอกาส ดร.สุริยานนท์ พลสิม ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ COLA KKU นำทีม ดร.พิทธิกรณ์ ปัญญามณี อาจารย์ประจำวิทยาลัย นักศึกษาจิตอาสา COLA KKU ออกเดินทางสู่พื้นที่ประสบอุทกภัยในโครงการ “COLA Care” อาสารุ่นใหม่ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดหนองคาย ระหว่างวันที่ 18 – 19 กันยายน 2567 ในพื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ และอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เพื่อส่งมอบกำลังใจและความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่
.
การเดินทางในครั้งนี้นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่สำนักงานอธิการบดีให้การสนับสนุนน้ำดื่ม 500 แพ็ก ขณะที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และคณะเทคโนโลยี สนับสนุนยานพาหนะส่งทุกคนถึงพื้นที่น้ำท่วม รวมถึงคณะเกษตรศาสตร์ที่ให้การสนับสนุนอุปกรณ์จอบ เสียม พรั่ว เป็นอาวุธสำคัญที่อาสารุ่นใหม่ทุกคนสามารถนำไปใช้เคลียร์พื้นที่โคลมตมให้แก่ชาวบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการประสานงานในพื้นที่กับหน่วยงานภายนอก ทั้งเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ โรงเรียนเทศบาลนครศรีเชียงใหม่ ทีมข่าว Thai PBS นักข่าวพลเมือง Thai PBS ตลอดจนสมาชิกสภาจังหวัดในพื้นที่
.
ดร.สุริยานนท์ พลสิม
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ COLA KKU
.
ดร.สุริยานนท์ พลสิม ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ COLA KKU เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ แบ่งนักศึกษาออกเป็น 2 ทีม โดยทีมแรกประจำจุดอำเภอศรีเชียงใหม่ ลุยช่วยทำความสะอาด เคลียร์พื้นที่บ้านเรือนชาวบ้านให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุด ส่วนอีกทีมประจำจุดช่วยครัวกลางที่อำเภอเมืองจังหวัดหนองคาย เป็นกำลังเสริมทำกับข้าว แพ็กข้าวกล่องเพื่อกระจายไปให้ศูนย์หน่วยงานต่างอำเภอรอบนอกมารับไปให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนในแต่ละพื้นที่ แพ็กถุงยังชีพ ขนเสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคไปยังจุดต่าง ๆ และลุยน้ำไปแจกข้าวกล่องตลอดทั้งวันกระทั่งเกือบทั้งคืน
“พวกเราทำงานกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า แล้วกลับไปพักค้างคืนกันที่โรงเรียนเทศบาลศรีเชียงใหม่ กลางวันทำงาน กลางคืนเรียนรู้ร่วมกัน ตามแนวคิดของวิทยาลัยการปกครองทิ้งถิ่น ที่ยึดมั่นอุทิศเพื่อสังคมเสมอ เรามองว่า เมื่อสังคมเดือดร้อน เราจะเอาเรื่องนี้มาสอนนักศึกษาได้อย่างไร จึงตัดสินใจว่าให้มาเรียนรู้ร่วมกันจากพื้นที่จริง ได้เรียนรู้ปัญหา ความเดือดร้อนของชาวบ้านจริง ๆ รวมถึงเรียนรู้พื้นที่และบริบทการจัดการภัยน้ำท่วม และร่วมกันแก้ไขปัญหานั้นอย่างเต็มที่ด้วยมือของตัวเอง”
.
.
อย่างไรก็ตาม ตลอด 2 วัน 1 คืน อาสาสมัครทั้ง 50 ชีวิต ไม่เคยย่อท้อ แม้ว่าแดดจะแรงแค่ไหนก็ยังเดินหน้าสู้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านให้ได้มากที่สุด และเตรียมพร้อมสำหรับการลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งถัดไปอย่างเต็มที่ ท่ามกลางการเรียนรู้ทฤษฎีจากประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน นับเป็นอีกเทคนิคการเรียนการสอนที่วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่นเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาได้เรียนรู้อย่างไม่จำกัด
