เปิดใจ 3 บัณฑิตป้ายแดง พิการกายแต่หัวใจแกร่ง แห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น

“ปลาย” ปิยาภรณ์ จันทร์ขาว
วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต  จากเด็กนักกิจกรรมจนเกือบถูก “รีไทร์”

“ปลาย” ปิยาภรณ์ จันทร์ขาว

________“ปลาย” เกิดและเติบโตที่อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ มีคุณยายเป็นผู้ปกครองและเสาหลักส่งเสียดูแล  เนื่องจากพ่อกับแม่แยกทางกัน  “ปลาย” เป็นเด็กเรียนดีจบมัธยมปลายสายคำนวณจากโรงเรียนบึงกาฬด้วยเกรดเฉลี่ย 3.64 เลือกเข้าศึกษาต่อที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในโควตาโครงการนักศึกษาพิการ โดยความบกพร่องทางร่างกายคือแขนขวาพิการใต้ข้อศอกลงมา

________ความพิการไม่เป็นอุปสรรคในการเรียน โดยเฉพาะการเรียนเลกเชอร์ เพราะสามารถเขียนด้วยมือซ้าย ยกเว้นการทำแล็บ การใช้สารเคมี มักมีเพื่อนบัดดี้ช่วยเหลือ

________ช่วงเรียนปี 1 ความที่ชอบทำกิจกรรมมาก จึงเข้าร่วมทุกกิจกรรมทั้งกิจกรรมของคณะ และมหาวิทยาลัย จนมีหน่วยกิตกิจกรรมถึง 70 – 80 หน่วยในปีแรก พอการจัดการเวลายังไม่ได้ เลิกดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้งต้องเรียน ต้องอ่านหนังสือสอบ และทำกิจกรรม การเรียนจึงตกลงมา เกือบถูกรีไทร์  เมื่อค้นพบว่า การรักษาสมดุลเป็นสิ่งสำคัญ เรียนและกิจกรรมไปด้วยกันได้ จึงใช้วิธีลงเรียนซัมเมอร์เกือบทุกเทอม เพื่อดึงเกรดขึ้น  และผ่อนกิจกรรมลงมาให้น้อยลง ก็สามารถกลับมามีผลการเรียนที่ดีขึ้นได้

________การพิการแขนขวาตั้งแต่ข้อศอกลงมา และฐานะทางบ้านไม่สู้ดีนัก ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับปลาย เพราะเธอเป็นคนที่พึ่งพาตัวเอง เช่น สอนพิเศษวิชาฟิสิกส์  ทำงานในโครงการจ้างงานกับกองกิจการนักศึกษา  เข้าร่วมโครงการเบิกค่าเทอมของคนพิการจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่สนับสนุนโดย อว. สามารถแบ่งเบาภาระยายได้มากทีเดียว

________ปลายเล่าว่า คนสำคัญที่สุดคือ “ยาย” รู้สึกภูมิใจในตัวเองจริง ๆ ที่ทำให้ยายภูมิใจในวันนี้ และตั้งใจว่าจะหางานทำที่มั่นคงที่สามารถดูแลตัวเองได้ และดูแลยายที่ลำบากมามากแล้วให้สบายในอนาคต

________นอกจากนี้ยังได้ ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดเจ้าหน้าที่ดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด มากกว่าความรับผิดชอบในหน้าที่ คือเป็นที่พึ่งทางใจของเหล่าบรรดานักศึกษาพิการตั้งแต่ปี 1 ถึงสำเร็จการศึกษา จะมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ ฯ ดูแลอยู่เสมอ

“พี่โอ๊ต” และ “ปลาย”

________ปลาย เผยว่า คนแรกที่ประทับใจมากและอยากขอบคุณจากหัวใจคือ “พี่โอ๊ต” (นางสาวปริยากร สบาย นักวิชาการศึกษา ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ กองพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ) พี่โอ๊ต มีจิตอาสาการบริการให้กับนักศึกษาพิการทุกคน จะคอยให้ความช่วยเหลือแนะนำให้คำปรึกษาในทุกเรื่องตั้งแต่เข้าปี 1 จนถึงวันรับปริญญา

“อาร์ต” ไพฑูรย์ กุมแก้ว
บัณฑิตวีลแชร์พลังบวก  ทิ้งบัตรผู้พิการ ใช้ศิลปะสร้างตัว

“อาร์ต” ไพฑูรย์ กุมแก้ว

________“อาร์ต” ไพฑูรย์ กุมแก้ว เป็นพี่คนโต และมีน้องสาวที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ในครอบครัวเล็ก ๆ ที่จังหวัดอำนาจเจริญ เดิมเป็นเด็กสดใส ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่เช่นเด็กทั่วไป แต่เมื่อถึงวัยรุ่นราว 18-19 ปีเกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ทำให้มีภาวะเดินไม่แข็งแรง ผู้ปกครองตัดสินใจให้เรียนต่อชั้นมัธยมปลาย ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ขอนแก่น แต่เรียนได้ปีเดียว จึงคิดว่าต้องออกนอกกรอบไปเรียนที่โรงเรียนขามแก่นนคร ในชั้นมัธยม 5-6 ก้าวข้ามกำแพงคำว่า “ผู้พิการ” ออกมา และตัดสินใจทิ้งบัตรคนพิการ

________กระทั่งสามารถสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้สำเร็จ เคราะห์ไม่ดีเกิดอุบัติเหตุตกบันไดอีกครั้ง เกิดอาการกระดูกทับเส้นประสาท ส่งผลให้ร่างกายท่อนล่างอ่อนแรงเฉียบพลันต้องนั่งวีลแชร์

________อาร์ต เล่าว่า “ตอนนั้นเศร้าหนักมาก เพราะที่บ้านฐานะแย่ แถมมีน้องที่ร่างกายไม่แข็งแรงอยู่แล้ว เป็นห่วงว่าใครจะดูแลพ่อกับแม่ ใครจะดูแลน้อง แต่ในที่สุดก็หลุดความรู้สึกนั้นมาโดยความคิดว่าแม้จะใช้เท้าเดินไม่ได้ ก็จะใช้ล้อนำทางเป็นเหมือนคนปกติ  ที่สำคัญในตอนที่เรียนอยู่มีเพื่อนที่ดีมาก คอยซับพอร์ตทุกเรื่องตั้งแต่ปี 1 เป็นขาแทน เป็นคนสอนทุกอย่าง พาไปกินข้าว พาไปเรียน จนถึงพากลับหอ”
________อาร์ตยังเล่าต่ออีกว่า  พี่โอ๊ต เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ เหมือนแม่คนที่สอง ช่วยดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ให้ เป็นคนที่เข้าใจแต่ไม่ตามใจมาก ปล่อยให้พวกเราใช้ชีวิตอย่างเข้าใจว่าต้องโตไปเรื่อย ๆ

________แม้ฐานะทางบ้านจะไม่ค่อยดี แต่อาร์ตก็เลือกที่จะไม่ขอทุนการศึกษามหาวิทยาลัย ไม่กู้เงินกยศ. เพราะเชื่อมั่นในตัวเองว่า ยังไหว ยังสามารถหารายได้เพื่อดูแลตัวเองขณะเรียนได้  อยากเก็บโอกาสไว้สำคัญคนที่แย่กว่า รายได้หลักของอาร์ตจึงมาจากการรับจ้างทำบีท (Beat) หรือดนตรีสังเคราะห์ โดยเอาความรู้สึกพูดออกไปเป็น Melody ผ่านผลงานศิลปะออกไปสร้างรายได้ อัดเป็นเนื้อร้องหรือแต่งเนื้อร้องให้ลูกค้า  นอกจากนี้ยังรับ งานวาดภาพ ตัดต่อวีดีโอ เขียนบท แต่งรูป  หลังปัจจุบันอาร์ตทำงานเป็นครูอัตราจ้างในโรงเรียนที่บ้านเกิด  และด้วยความเป็นคนอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ได้ ก็รอเวลาที่ชีพจรจะลงล้ออีกครั้ง

________“บางคนที่เดินได้อาจจะไม่มีโอกาส สงสารคนที่ไม่มีแล้วเขาขอทุนไม่ได้ จากคนที่ยืมไปแล้วไม่คืน เราเลยอยากแบ่งที่ของเราไว้ให้คนที่เขาไม่มีจริง ๆ ดีกว่า แรงบันดาลใจของความสำเร็จเป็นบัณฑิตในวันนี้ มาจากที่ความฝันของยายอยากเห็นคนในตระกูลเข้ารับปริญญาสักคน ได้สวมชุดครุยในวันนี้ภูมิใจที่ตัวเองทำได้มากครับ” “อาร์ต” ไพฑูรย์ กุมแก้ว กล่าวทิ้งท้ายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ฟลุ๊ค” นิติศาสตร์ การถัก  
ศึกษาศาสตร์บัณฑิต  ว่าที่ครูหนุ่ม ผู้มุ่งหวังส่งต่อแรงบันดาลใจให้นักเรียน

“ฟลุ๊ค” นิติศาสตร์ การถัก

________“ฟลุ๊ค” ในอดีตเป็นเด็กร่างกายแข็งแรง  อาศัยอยู่กับตายาย และพี่สาว 1 คน ในอำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อประถม 6 ประสบอุบัติเหตุตกจากจักรยานยนต์ ส่งผลให้ขาอ่อนแรง กระทั่งได้เรียนต่อชั้นมัธยม 4 ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ขอนแก่น เมื่อเดินไม่ทันเพื่อนจึงนั่งวีลแชร์เป็นหลัก จึงกลายเป็นติดวีลแชร์ในที่สุด เข้าเรียนได้เพียง 1 เทอม จึงย้ายออกไปเรียนที่โรงเรียนขามแก่นนคร เพื่อเน้นด้านวิชาการ และได้รับโอกาสเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยขอนแก่น

________“ฟลุ๊ค” ได้พบกับเพื่อน ๆ กลุ่มสัมพันธ์ในสาขาศิลปศึกษา เอาใจใส่อาหาร การกิน จัดเวร มารับ- ส่ง ช่วงแรก เดินทางโดยมีเพื่อนช่วยยกวีลแชร์ขึ้นชัตเทิลบัส ด้วยความไม่สะดวกในการขึ้นลง ในช่วงชั้นปีที่ 2 เพื่อนจึงอุ้มขึ้นนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ รับ-ส่ง พกวีลแชร์ไว้คณะ ฯ ซึ่งสะดวกมากขึ้น

________โชคดีที่เพื่อนน่ารัก เอาใจใส่ ไม่คิดแบ่งแยกว่าเราเป็นผู้พิการ เพื่อนดูแลดีมาก แม้แต่การไปห้างสรรพสินค้าก็นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์เมื่อ ถึงห้างเพื่อนจะแบกขึ้นหลัง แล้วพาเดินไปทั่วทุกชั้น นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากศูนย์บริการนักศึกษาพิการ  บริการยืมวีลแชร์ เครื่องบันทึก หรือการเบิกคืนค่าเทอม

________เป้าหมายของชีวิตหลังเรียนจบ อยากทำงานในสถานศึกษาพิเศษที่มีการอำนวยความสะดวกกับผู้พิการ และเป็นแรงบันดาลใจ กำลังใจให้ผู้ปกครองเห็นศักยภาพของเด็กพิเศษ หรืออีกนัยหนึ่งก็อยากที่จะอยู่กับโรงเรียนปกติ คือให้เด็กได้เห็น และยอมรับข้อแตกต่างระหว่างบุคคล

________เพราะพบเจอกับคำว่า “ยาก” เป็นบททดสอบมาเกือบทั้งชีวิต แต่ก็สามารถข้ามผ่านมาได้ด้วยพลังบวกที่นับเป็นความ “โชคดี” ยิ่ง ทั้งจากเพื่อน ครอบครัว อาจารย์ และโอกาสจากทางคณะ ที่คอยเคียงข้างจนมาถึงเส้นชัย โดยเฉพาะ “เพื่อน” ที่บัณฑิตพิการกล่าวถึงด้วยน้ำเสียงตื้นตันว่า “อยากขอบคุณเพื่อนมากที่สุด ขอบคุณที่ดูแลเราทุกอย่าง ขอบคุณที่ไม่ว่าจะไปไหนก็พาเราไปด้วย ถ้ามีโอกาสก็อยากจะตอบแทน เวลาที่เขามีปัญหาก็อยากจะให้นึกถึงเรา”

________ส่วนการสนับสนุนของมหาวิทยาลัยนอกจากการมีศูนย์บริการนักศึกษาพิการ ที่คอยอำนวยความสะดวกแล้ว  นักศึกษาทั้ง 3 คนสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้เพิ่มการอำนวยความสะดวก ในด้านการเดินทาง คมนาคม สถานที่ ให้เอื้อมากพอสำหรับนักศึกษาพิการ เช่นทางลาดแม้มีแต่อาจจะสูงชันเกินไปอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ผศ.นพ.ธรา ธรรมโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น

________ผศ.นพ.ธรา ธรรมโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร  มหาวิทยาลัยขอนแก่น  กล่าวว่า การดูแลผู้พิการนั้น สอดคล้องโดยตรงกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่ 3 กลยุทธ์ที่ 2 เรื่องการดูแลและการให้บริการสังคม นอกจากนี้ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้นำเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ สหประชาชาติ Sustainable Development Goal  มาเป็นกรอบในการดำเนินการดำเนินงาน   ซึ่งกรอบดังกล่าวมี SDGs ที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ 2 SDGs คือ SDGs 4 เรื่อง การศึกษา และ SDGs 8 เรื่องการจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ  เพราะฉะนั้นการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยขอนแก่น มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางของสหประชาชาติ

________“มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เนื่องจากมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาในด้านนโยบาย องค์ความรู้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ การพัฒนาในด้านอาชีพ การพัฒนาในด้านคุณภาพชีวิต การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก จากความร่วมมือดังกล่าว เราจะพัฒนาต่อยอดเพิ่มขึ้น  ซึ่งขณะนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการปรับนโยบาย การรับคนพิการทั้ง นักศึกษา บุคลากร  มีอาจารย์สาขาต่าง ๆ จะมาระดมสมองเพื่อเป็นองค์ความรู้ แนวทางในการพัฒนาอย่างรอบด้าน ซึ่งโครงการที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ และ มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในขณะนี้  อาทิ การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากเพิ่มขึ้น ด้านการรับนักศึกษา การรับบุคลากรใหม่ ด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ นอกจากนี้ จะมีการสำรวจคนพิการใหม่  เนื่องจากความพิการมีหลายระดับ แต่เดิม เราสามารถตรวจจับได้เฉพาะกรณีที่เห็นอย่างชัดเจน เช่น แขนขาด ขาขาด ตาบอด แต่ในความเป็นจริงแล้วความพิการที่มีระดับมากกว่านั้น เช่น ตาฝ้าฟาง มือใช้งานไม่ได้บางส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา หรือ บุคลากร เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงนโยบาย สิ่งอำนวยความสะดวกมากเพิ่มขึ้น”

________บัณฑิตหัวใจแกร่งทั้ง 3 คน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยรับพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากพระหัตถ์ ในห้องรับรองเป็นการส่วนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีพุทธศักราช 2564 ระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ  ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ข่าว/ภาพ   :   วัชรา  น้อยชมภู  /  ยุธิดา  โฉสูงเนิน

 

Scroll to Top